ดังที่ได้เห็นกันแล้วว่าเปิดปี พ.ศ. 2567 มาราคาทองรูปพรรณและทองคำทำสถิติใหม่ New high สูงถึง 40,000 บาท และขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ทุกคนต่างพุ่งความสนใจมาที่การลงทุนในทองคำ แต่อะไรคือเหตุผลของราคาทองรูปพรรณและทองคำที่ทำให้ราคาสูงไม่หยุดแบบนี้ มาดูกันเลย

1. เงินเฟ้อทั่วโลกมากขึ้นส่งผลต่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ เช่น ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น วัตถุดิบต่างๆ ราคาอาหาร และราคาทองรูปพรรณ ทองคำ ซึ่งส่งผลกระทบมากที่สุดเพราะทองคำเป็นทรัพย์สินปลอดภัยที่คนมักจะซื้อไว้เมื่อเกิดปัญหาเงินเฟ้อ

2. ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์จากสงครามที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันที่ยังคงมีอยู่จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ทำให้กลุ่มนักลงทุนธนาคารหลายประเทศเข้าเก็บทองมากขึ้นมากกว่าการเก็บไว้ในพันธบัตรสหรัฐ เพื่อความปลอดภัยของสินทรัพย์ในยามวิกฤติ

3. การปรับลดของดอกเบี้ยธนาคารกลาง (เฟด) ปรับลดช้าขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงทำให้ธนาคารกลางขยับการปรับลดดอกเบี้ยไปซึ่งมีแนวโน้มมากที่สุดคือช่วงมิถุนายน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำทำให้นักลงทุนหันกลับมาลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยคือทองคำ ราคาทองคำจึงสูงขึ้น

4. แรงซื้อที่เพิ่มขึ้นจากหลายๆ เหตุการณ์ที่กล่าวมาทำให้เกิดแรงเข้าซื้อทองคำเป็นจำนวนมากเพื่อต้องการคุ้มครองสินทรัพย์ปลอดภัย การเข้าซื้อนี้เองที่ทำให้ราคาทองรูปพรรณและทองคำเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลก็ทำให้เกิดแรงซื้อเยอะเพื่อนำไปเป็นของขวัญให้ลูกหลานญาติผู้ใหญ่ ทำให้ราคาทองรูปพรรณหรือทองคำเพิ่มสูงขึ้น

จากเหตุผลที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าเป็นหลายคนมักจะซื้อทองคำเก็บไว้ในช่วงเวลาวิกฤตเพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยซึ่งมีมูลค่าไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม จึงเป็นเหตุผลว่าเมื่อมีวิกฤตทางเศรษฐกิจ ความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ เงินเฟ้อและอื่นๆ หลายคนจึงหันไปซื้อทองคำเก็บไว้มากกว่าการปล่อยเงินทิ้งไว้เฉยๆ แต่มีมูลค่าเท่าเดิมเพราะราคาทองรูปพรรณหรือทองคำมักจะสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีวิกฤตต่างๆ เข้ามา และคาดว่าจะพุ่งสูงขึ้นไปอีกไม่มีลดลง